แน่นอนครับ ที่ผมชอบและเห็นด้วย ก็เพราะผมเชื่อว่า ความคิดคือสิ่งที่มีตัวตน และเป็นสิ่งที่ทรงพลัง โดยเฉพาะความคิดที่ฝังแน่นอยู่ในจิตใต้สำนึก จะมีอำนาจที่สามารถจะดึงดูดสิ่งดีๆ หรือสิ่งไม่ดีเข้ามาสู่เราได้ แม้ว่าจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าก็ตาม เหมือนกับกระแสไฟฟ้า ซึ่งมองไม่เห็น แต่ก็มีอยู่จริง และถ้าคุณไม่เชื่อว่ามันมีอยู่จริง ก็ลองเอานิ้วแหย่ปลั๊กไฟดูก็ได้ครับ ผมว่าคุณจะต้องเปลี่ยนความคิดอย่างแน่นอน
และเจ้าความคิดนี้ มันก็สามารถทำให้ชีวิตของคนเรา ดีขึ้นหรือเลวลง มีความสุขหรือมีความทุกข์ อีกทั้งยังสามารถบันดาลความสำเร็จให้กับคนเราได้ในทุกๆทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันถูกผสมผสานด้วยจุดหมายอันแน่วแน่และความมุ่งมั่น เพื่อที่จะแปลความคิดเหล่านั้นไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้
ฉะนั้น ถ้าคุณคิดว่า คุณได้ทำอะไรก็ตามด้วยแผนการทำงานที่ดี ทำด้วยความมุ่งมั่น ขยันขันแข็ง แต่ผลลัพธ์ที่ออกมายังไม่ดีพอ แสดงว่า คุณจะต้องปรับเปลี่ยนความคิดที่ถูกโปรแกรมไว้ในจิตใต้สำนึกของคุณใหม่ เพื่อให้รับกับความสำเร็จที่จะเกิดขึ้น หรือพูดง่ายๆ คุณจะต้องปรับแผนผังเพื่อความสำเร็จในจิตใจของคุณใหม่
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด คือพวกที่ถูกหวย มีอยู่หลายรายต่อหลายรายด้วยกันเช่น คนขับสามล้อที่ถูกหวยรางวัลที่1 ได้เงินรางวัล30กว่าล้าน แต่ปัจจุบันเขากลับมามีฐานะทางการเงินเท่าเดิม แม้กระทั่งคนขับแท็กซี่ ซึ่งผมดูรายการวาไรตี้รายการหนึ่งออกมาสัมภาษณ์ เคยถูกหวยได้เงินมา10กว่าล้าน เพียงชั่วเวลาเพียง2ปี เขาก็กลับมามีฐานะทางการเงินเท่าเดิมและมาขับแท็กซี่เหมือนเดิม
ซึ่งตรงข้ามกลับเศรษฐีเงินล้านหลายๆคน ที่สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเอง ในช่วงวิกฤตเศรฐกิจ เขาเหล่านั้นสูญเสียเงินไป แต่พวกเขาจะหามันกลับมาได้ในเวลาอันรวดเร็ว กรณีเศรษฐีอเมริกันอย่างโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ทรัมป์เคยมีทรัพย์สินนับพันล้านเหรียญ จนมาวันหนึ่งเขาสูญเสียทุกอย่างไปจนหมดตัว แต่อีกสองปีให้หลัง เขาก็กลับมาผงาดใหม่ แถมยังมีทรัพย์สินมากกว่าเดิมเสียด้วยซํ้า
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น นั่นเป็นเพราะถึงแม้เศรษฐีเงินล้านเหล่านั้นจะสูญเสียเงินไป แต่องค์ประกอบที่นำพวกเขาสู่ความสำเร็จก็ไม่เคยสูญเสียไปเลย องค์ประกอบที่ว่านั้นก็คือ ความคิดแบบเศรษฐีเงินล้านหรือความคิดแบบความสำเร็จที่ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งความคิดเหล่านั้นจะทำให้เขาเกิดความรู้สึก และความรู้สึกจะทำให้เขาเกิดการกระทำ และการกระทำจะทำให้เกิดผลลัพธ์ (ผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จ)
คนเราทุกคนต่างก็มีแผนผังสำหรับความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องหน้าที่การงาน การเงิน รวมถึงการทำธุรกิจเฉพาะตัวที่ฝังรากอยู่ในจิตใต้สำนึก และแผนผังนี้เองจะเป็นตัวชี้อนาคตทางการงาน การเงินของคุณ มากกว่าปัจจัยอื่นใดเสียอีก ซึ่งแผนผังของคุณ จะประกอบไปด้วยความคิด ความรู้สึก และการกระทำ เพื่อจะนำไปสู่ผลลัพธ์ โดยแผนผังของคุณจะประกอบไปด้วยข้อมูลที่ผ่านการตั้งโปรแกรม มาตั้งแต่อดีต โดยเฉพาะในวัยเด็ก...
และถ้าโปรแกรมของคุณถูกตั้งมาเพื่อความสำเร็จ มันก็จะส่งผ่านไปให้เกิดความคิดที่จะต้องการไปสู่ความสำเร็จ และความคิดของคุณจะไปกำหนดความรู้สึกในการตัดสินใจที่ถูกต้องเพื่อนำไปสู่การกระทำตามแผนงานที่ได้วางไว้ เพื่อผลลัพธ์แห่งความสำเร็จนั้นๆ
กล่าวโดยสรุป ให้เราเฝ้ามองตัวเองโดยใช้พื้นฐานของเหตุและผลว่า มีข้อมูลอะไรที่ฝังอยู่ในจิตใจของเรามาตั้งแต่อดีต ซึ่งเป็นตัวขัดขวางความสำเร็จของเรา อย่างเช่นอาจจะเป็นคำพูดว่า คนรวยนั้นไม่ดี เป็นคนละโมบ คนรวยทำนาบนหลังคน ถ้าเราประสบความสำเร็จมากไปก็จะมีคนมาอิจฉา สู่อยู่ไปวันๆดีกว่า ซึ่งแน่นอนถ้าเราเชื่อ เราก็จะถูกโปรแกรมให้เกลียดคนรวย หรือไม่อยากที่จะประสบความสำเร็จกลัวคนเขาจะอิจฉาเรา และแน่นอนมันจะส่งผ่านจากความคิดไปสู่ความรู้สึกที่จะตัดสินใจว่าจะไม่เป็นคนประสบความสำเร็จ และก็จะเลือกกระทำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาให้ไม่ประสบความสำเร็จตามโปรแกรมที่เราได้ติดตั้งมาตั้งแต่อดีต
พยามคิดในสิ่งที่ดี ให้กำลังใจตัวเอง มองว่าเราก็สามารถที่จะประสบความสำเร็จได้ ไม่ว่าจะในหน้าที่การงาน การเงิน การทำธุรกิจ เคารพและศรัทธาในตัวเอง พยายามสั่งเข้าไปในจิตใต้สำนึกทุกวัน อาจจะก่อนเข้านอนครั้งหนึ่ง และอาจจะก่อนออกไปทำงานอีกครั้งหนึ่ง
วิธีนี้จะเป็นการล้างโปรแกรมเก่าๆที่ไม่ต้องการให้ออกไปจากจิตใต้สำนึกของเรา และติดตั้งโปรแกรมใหม่ซึ่งเป็นแผนผังแห่งความสำเร็จเข้าไปแทนที่ ทำอย่างสมํ่าเสมอ อาจจะต้องใช้เวลาบ้าง แต่ผมบอกได้เลยครับว่า คุณจะได้รับผลรับที่น่าพอใจเลยทีเดียว
อย่าลืมนะครับ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิต แม้ในยามที่ไม่เหลืออะไรเลย สิ่งหนึ่งที่เราต้องมีคือ ศรัทธาในตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเอง เคารพในตัวเอง คิดแต่สิ่งดีๆ ลองจินตนาการถึงสิ่งที่เราอยากจะเป็น..อยากจะได้ อย่างเช่น จินตนาการถึงบ้านหลังใหม่ รถยนต์คันใหม่ ตลอดจนความเป็นอยู่ที่ดีของครอบครัวที่เรารัก การศึกษาที่ดีของลูกๆ แล้วเชื่อว่าเราได้ครอบครองมันแล้วในขณะนั่น เพื่อนๆลองทำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ก่อนเข้านอน และ ก่อนออกไปทำงาน
ในไม่ช้าสิ่งต่างๆที่เราจินตนาการจะถูกฝังลงในจิตใต้สำนึกของเรา และมันจะเริ่มทำงาน โดยการคิดหาหนทางให้แก่เรา เพื่อก้าวเข้าสู่หนทางของความสำเร็จต่อไป....
ธนชาต ชยะกุลศักดา
Tel : 0869037718
Email : takeaction58@gmail.com